วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขับขี่ปลอดภัย



สวัสดีคับวันนี้ผม มานำเสนอการขับขี่ปลอดภัยกันนะคับ

1. เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ที่ใช้ในการขับขี่ หมวกกันน๊อค ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายต้องสวมใส่หมวกกันน๊อคในขณะขับขี่ทุกครั้ง และหมวกกันน๊อคต้องมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจาก มอก. การสวมใส่หมวกกันน๊อคทุกครั้ง ต้องใส่สายรัดคางให้แน่นกระชับพอดี ไม่รัดแน่นหรือหลวมเกินไป โดยปกติสามารถใช้นิ้วชี้สอดเข้าไปใต้คางได้พอดี แว่นตากันลม ผู้ขับขี่ควรที่จะสวมใส่แว่นกันลม เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละออง,เศษหิน,ทราย,ตัวแมลง หรือน้ำฝนกระเด็นเข้าตาในขณะขับขี่ เสื้อแจ็กเก็ตและกางเกง ควรสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีสีสันสว่างสดใส เพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล กางเกงควรเป็นกางเกงที่มีเนื้อผ้าที่หนา เช่น กางเกงยีนส์ ที่ไม่คับหรือหลวมเกินไป ถุงมือ ผู้ขับขี่ใส่ถุงมือสำหรับขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อให้กระชับในขณะขับขี่และป้องกันมิให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงที่มือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ รองเท้า ควรสวมใส่รองเท้าบู๊ทหรือรองเท้าหุ้มส้นทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ไม่ควรสวมรองเท้าแตะในการขับขี่รถเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงบริเวณเท้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 2. การใช้ขาตั้งข้างและการจูงรถจักรยานยนต์ วิธีการเก็บและใช้ขาตั้งกลาง ก.การเก็บขาตั้งกลาง 1. ใช้มือทั้งสองข้างจับที่แฮนด์รถ อย่าให้หน้ารถหันไปด้านซ้ายหรือขวา 2. ดันรถให้ไปข้างหน้าด้วยแขนทั้งสองข้างพร้อมกับใช้สะโพกด้านข้างดันรถไว้เพื่อมิให้ล้ม 3. ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวจากขาตั้งกลางให้ใช้มือขวาค่อยๆ บีบเบรคหน้าเพื่อช่วยป้องกันมิให้รถลื่นไถลไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

และก็ตามด้วยหลัก 10ประการนะคับ

1. สวมหมวกกันน๊อคทุกครั้งเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์

2. หมั่นตรวจระบบเบรค ยางและระบบส่องสว่างให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

3. มองดูด้านหลังและให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนช่องทาง

4. สัญญาณจราจรที่สำคัญและควรจดจำ

5. อย่าขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทาง หรือข้ามช่องทางวิ่ง

6. ระมัดระวัง และลดความเร็วทุกครั้งเมื่อพบกับสภาพถนนที่ขรุขระ เป็นหลุม

7. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

8. ห้ามเสพหรือดื่มของมึนเมาขณะขับขี่รถจักรยานยนต์

9.การขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณสี่แยกที่มีการจราจรติดขัดในด้านตรงข้ามควรหยุดรถ หรือชะลอความเร็วของรถ และตรวจดูว่าปลอดภัยจากยานพาหนะอื่น แล้วจึงเคลื่อนรถเข้าสู่บริเวณสี่แยก โดยระมัดระวังรถคันอื่นที่จะออกมาจากมุมที่มองไม่เห็น หรือจุดบอดที่เกิดจากรถที่กำลังจอดติดกันอยู่ อาจมาจากรถบนทางตรงของถนนที่ตัดกัน หรือรถที่เลี้ยวมาจากด้านตรงข้าม

10. การขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง และมีปริมาณรถน้อยในเวลากลางคืนในการขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนที่ไม่มีให้ส่องสว่างในเวลากลางคืนจะสามารถมองเห็นได้เพียงบริเวณที่ไฟหน้ารถส่องสว่างถึง ดังนั้นจึงควรขับโดยใช้ความเร็วต่ำกว่าเวลากลางวัน เพื่อให้สามารถคาดการณ์ และแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันได้
ยังไงเพื่อนๆคนไหนที่รักรถก็ต้องรักตัวเองด้วยนะคับอย่าลืมซะละ แล้วเจอกันใหม่ ในตอนใหม่ๆนะคับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น